เมนู

อธิบายกุศลนิเทศ

(บาลีข้อ 358)
บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงประสงค์เพื่อทรงแสดงปัจจยาการใน
กุศลจิตเป็นต้น โดยนัยนี้แหละ จึงเริ่มคำมีอาทิว่า กตเม ธมมา กุสลา
(ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน) ดังนี้.
ก็ในอกุศลจิต พระองค์ทรงตั้งมาติกาไว้ก่อนแล้วทรงทำนิเทศไว้ใน
ภายหลัง แต่ในกุศลนิเทศนี้ พระองค์มิได้ทรงทำเช่นนั้น เพราะเหตุไร ?
เพราะความต่างกันในวาระว่าด้วยอัปปนา ด้วยว่าในโลกิยกุศลจิตเป็นต้น
ย่อมเป็นอัปปนา โดยพระบาลีว่า เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺ-
ธสฺส
กองทุกข์ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการฉะนี้ เพราะความที่ธรรมเหล่านั้น
เนื่องในทุกขสัจจะ ในโลกุตรกุศลเป็นต้น ย่อมเป็นอัปปนาแก่ธรรมเหล่านั้น
ด้วยประการฉะนี้ เพราะฉะนั้น ในกุศลเป็นต้นนี้ จึงไม่อาจเพื่อทรงตั้งมาติกา
โดยสาธารณะ จึงทรงยกมาติกาแห่งกุศลเป็นต้นเหล่านั้น ๆ ขึ้นแสดงแต่ละอย่าง
แล้วทรงทำนิเทศ ในกุศลเหล่านั้น เพราะไม่มีอวิชชารวมกับกุศลสังขารใน
ขณะแห่งจิตดวงเดียวกัน ฉะนั้น จึงไม่ตรัสอวิชชานั้น แล้วตรัสกุศลมูลโดย
เป็นรากเหง้าแห่งกุศลทั้งหลาย เหมือนอวิชชาเป็นรากเหง้าของอกุศลทั้งหลาย
และเพราะความไม่มีตัณหาอุปาทาน จึงตรัสปสาทะ (ความผ่องใส) อันหยั่ง
ลงในภายในอารมณ์ เหมือนตัณหาตั้งอยู่ในที่แห่งตัณหา ตรัสอธิโมกข์ ชื่อว่า
การตกลงใจอย่างมั่นคงเหมือนอุปาทานตั้งอยู่ในที่แห่งอุปาทานฉะนั้น. คำที่
เหลือ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวในหนหลังนั้นแหละ ฉะนี้แล.
กุศลนิเทศ จบ